หลวงพ่อทวดเนื้อว่านวัดนวลฯ เป็นพระร่วมสมัยกับพระหลวงพ่อทวดที่ทันพระอาจารย์ทิม คือสร้างในปี 2505 แต่การสร้างหลวงพ่อทวดของวัดนวลฯนั้นจะแปลกกว่าวัดอื่น ตรงที่ท่านเจ้าอาวาสวัดนวลฯท่านนำพระสมเด็จกรุวัดบางขุนพรหมที่แตกกรุเมื่อคราวพ.ศ.2500 นำมาเป็นส่วนผสมจำนวนมาก พร้อมทั้งว่านชนิดต่างๆและดินกากยายักษ์นำมารวมกัน ทำให้พบเห็นพระหลวงพ่อทวดวัดนวลฯ จะมีหลายวรรณะเนื่องจากเกิดจากส่วนผสมที่แตกต่างกันไป 

- ในส่วนของพิมพ์พระหลวงพ่อทวด ทางวัดนวลฯได้ทำพิมพ์ให้ผิดไปจากวัดอื่นโดยสิ้นเชิงทั้งนี้ได้อาศัยเค้าพิมพ์เดิมคือ เป็นรูปหลวงปู่ทวดนั่งสมาธิบนทรงกรอบแบบเล็บมือหรือกลีบบัว แต่ได้เพิ่มจากอาสนะบัวสองชั้นมาเป็นอาสนะพญางูใหญ่ และในฝ่ามือที่ประสานสมาธิที่หน้าท้องของหลวงปู่ทวดคือ ลูกแก้วจากนาคพิภพ อันที่อยู่ที่วัดพะโค๊ะ และแบ่งออกเป็นสองพิมพ์คือ พิมพ์ใหญ่ และ พิมพ์เล็ก แต่มีแม่พิมพ์หลายพิมพ์ด้วยกันจึงมักจะพบว่ามีลักษณะไม่เหมือนกันอยู่บ้างเพราะกดกันอย่างเร่งรีบเพื่อให้ทันกับพิธี เนื้อพระจะมีสีขาวนวลและสีออกเทาอมดำ ลักษณะเนื้อพระจะออกฟูเพราะส่วนประสานไม่ได้มาตราฐานนักเอาแต่เพียงแค่พอเป็นพิธีเพื่อให้ยึดติดกัน ซึ่งระหว่าง ว่าน เกสร และผงวิเศษต่างๆจะไม่รวมกัน ความแห้งของเนื้อพระเริ่มจะมีให้เห็นแล้วในปัจจุบัน

- ปัจจุบันวัดนวลประดิษฐ์นภาราม จ.ชุมพรเป็นวัดร้างไปแล้ว การสร้างหลวงพ่อทวด วัดนวลฯ ปี2505รุ่นนี้ จึงถือได้ว่าเป็นเพียงรุ่นแรกและรุ่นเดียวเท่านั้นที่มีการจัดสร้างขึ้นและทันพระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้

* พระหลวงพ่อทวด วัดนวลฯรุ่นนี้มีพิธีพุทธาภิเษกซึ่งเป็นพิธีใหญ่ถึง 3วัน 3คืนคือ ตั้งแต่วันที่1-3 ธันวาคม พ.ศ.2505 (วันที่1ธค.2505เป็นวันเสาร์5) โดยพระเกจิคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักหลายรูปได้แก่
1.พระอาจารย์หมุน วัดเขาแดง จ.พัทลุง ((หลวงพ่อทวด ลงประทับร่างท่าน))
2.หลวงปู่เล็ก วัดนาปะขอ จ.พัทลุง
3.พระอาจารย์วรรณ วัดปากพะยูน จ.พัทลุง
4.หลวงพ่อรุ่ง วัดโคกคีรี จ.พัทลุง
5.พระพิศาลธรรมรังสี วัดคูหาสวรรค์ จ.พัทลุง
6.หลวงพ่อนิ่ม วัดสามบ่อ จ.สงขลา
7.หลวงพ่อบุญรอด วัดประดู่ จ.นครศรีธรรมราช
8.หลวงพ่อจุ้ย วัดเขาพนมแปก จ.สุราษฏร์ธานี
9.หลวงพ่อซบ วัดประสาทนิมิตร จ.ชุมพร
10.หลวงพ่อคล้อย วัดสุบรรณนิมิตร จ.ชุมพร
11.หลวงพ่อปล่อง วัดสุบรรณนิมิตร จ.ชุมพร
12.หลวงพ่อหญีต(โกมินทร์)วัดบางหมาก จ.ชุมพร
13.หลวงพ่อท้วม วัดบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
14.พระครูพัฒนกิจกำจร วัดพระธาตุ จ.ประจวบคีรีขันธ์
15.พระอาจารย์มงคล วัดนวลประดิษฐนภาราม จ.ชุมพร

- พุทธคุณของหลวงพ่อทวด วัดนวลประดิษฐ์นภาราม ปี 2505 จ.ชุมพร รุ่นนี้จากข้อมูลในหนังสือนิตยสารบางเล่มในสมัยเมื่อ30-40ปีก่อน การทดสอบพุทธคุณของพระเครื่องพบว่าเน้นหนักไปทาง "แคล้วคลาด มหาอุดและคงกระพัน" ซึ่งถือว่าเป็นพระหลวงพ่อทวดเพียงวัดเดียวก็ว่าได้ที่ได้ผ่านการทดสอบแล้วว่ามีพุทธคุณเด่นด้าน "คงกระพัน"
http://www.pralanna.com/boardpage.php?topicid=5545

** มวลสารที่ท่านพระครูพุทธวโรปการณ์อันเป็นหลักได้แก่อิทธิวัตถุตามบันทึกของกรรมการจัดสร้างมีดังนี้ ;
-ผงบดละเอียดของพระสมเด็จบางขุนพรหม(แตกกรุ)ที่แตกหักชำรุดจำนวนมาก 
-ว่าน108 
-เกษรดอกไม้ 108 
-ผงปถมัง 
-ผงอิทธิเจ 
-ผงพระยากาสัก 
-ผงมหาอุด 
-ผงพระ25พุทธศตวรรษ 
-ฟองเหล็กไหล 
-ขี้เหล็กไหล 
-น้ำตาเทียน108วัดอุดใต้ฐานพระทุกองค์(พระสีขาวนวลแต่เท่าที่พบพระเนื้อสีเทาและดำไม่ค่อยมีน้ำตาเทียน)
-ผงบดจากพระเนื้อดิน 25 พุทธศตวรรษ 
-ตะไคร่ใบเสมาพระอุโบสถวัดนวลฯ
-ใบโพธิ์ลังกาจากพระธาตุนครศรีธรรมราชป่นเป็นผง 
-ผงช้างลืมโขลง 
-ผงก้นกรุพระสมัยศรีวิชัย 
-แร่วิเศษต่าง ๆ 
-ผงหลวงพ่อแสง

*** การประกอบพิธีนั้นวันแรกเป็นวันเสาร์ห้า อันถือได้ว่าเป็นวันแรงวันขลังและพระอาจารย์ที่มาร่วมพิธีต่างมีนิมิตที่คล้ายกันคือ เห็นหลวงพ่อทวดมาเดินวนอยู่รอบกองวัตถุและเป่าลมลงไปในกองวัตถุมงคลในพิธีบวงสรวง พราหมณ์ได้สังเวยฤกษ์และป่าวร้องชุมนุมเทวดา จากนั้นได้อัญเชิญดวงพระวิญญาณของหลวงพ่อทวดมารับรู้และอำนวยพร พอประธานฝ่ายสงฆ์เจิมบายศรีก็มีฝนโปรยเป็นละอองลงมา พราหมณ์ได้ประกาศว่าถ้าหากดวงพระวิญญาณสมเด็จเจ้าพะโค๊ะเมตตาจะเสด็จลงประทับแล้ว ขอให้ลงมาประทับในร่างของผู้ทรงศีลสังวรที่เป็นที่เลื่อมใสของผู้คนในพิธีนี้โดยที่ไม่ต้องอัญเชิญ ครั้นใกล้จะได้เวลาดับเทียนชัย หลวงปู่ทวดก็ลงมาประทับในร่างของหลวงพ่อหมุน ยสโร วัดเขาแดง และเรียกท่านเจ้าอาวาสไปหาแล้วปลุกเสกรูปหล่อที่สร้างเข้าพิธีมอบให้ แล้วสั่งว่าให้รักษาไว้ให้ดี ถือเป็นของที่ท่านมอบให้เป็นกรณีพิเศษเมื่อติดขัดหรือต้องมีเรื่องการความช่วยเหลือ ให้จุดธูประลึกถึงท่านและได้ให้คาถากำกับพระเครื่องวัดนวลฯว่า "นะโมโพธิสัตโต ราชมุนีสามีราโม อิกะวิติ อุปะสะอำ" และเมื่อเข้าที่คับขันอันตรายจวนตัวให้ระลึกถึงหลวงปู่ทวดเอามือขาวปิดกลางกระหม่อมว่าคาถาดังนี้ "นะปิดตา อนัตตาปิดใจ นะหายไป อนัตตา อนัตตา…" ให้ท่องคำว่า "อนัตตา" เรื่อยไปจนกว่าจะพ้นอันตราย.